Skip to content

วินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานได้อย่างไร

หน้าแรก  >  บทความเกี่ยวกับสุขภาพ

คนปกติก่อนรับประทานอาหารเช้าจะมีระดับน้ำตาลในเลือด 70-99 มก./ดล. และหลังรับประทานอาหารแล้ว 2 ชั่วโมง ระดับน้ำตาลจะไม่เกิน 140 มก./ดล.

การวินิจฉัยโรคเบาหวานอาศัยการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ตามเกณฑ์ ดังนี้

  • กรณีที่มีอาการโรคเบาหวาน และระดับน้ำตาลในเลือด (อดอาหารหรือไม่ก็ได้) ตั้งแต่ 200 มก./ดล. ขึ้นไป ให้การวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน
  • กรณีที่ไม่มีอาการ แต่ระดับน้ำตาลในเลือด ก่อนรับประทานอาหารเช้า ตั้งแต่ 126 มก./ดล. ขึ้นไปอย่างน้อย 2 ครั้งจะให้การวินิจฉัยเบาหวาน
  • กรณีสงสัยว่าเป็นเบาหวาน(มีอาการของเบาหวาน) แต่ระดับน้ำตาลในเลือด ก่อนรับประทานอาหารเช้าไม่ถึง 126 มก./ดล. ให้ตรวจโดยดื่มสารละลายน้ำตาลกลูโคส 75 กรัม โดยเจาะเลือดก่อนดื่ม และ 2 ชั่วโมงหลังดื่ม

– วินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดที่ 2 ชั่วโมง ตั้งแต่ 200 มก./ดล.
– วินิจฉัยว่าปกติเมื่อระดับน้ำตาลในเลือด ที่ 2 ชั่วโมง น้อยกว่า 140 มก./ดล.
– วินิจฉัยว่าความทนต่อน้ำตาลบกพร่อง (Impaired Glucose Tolerance Test หรือ IGT) เมื่อระดับน้ำตาลในเลือด ที่ 2 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 140-199 มก./ดล.

  • ในกรณีที่ระดับน้ำตาลในเลือด ก่อนรับประทานอาหารเช้าอยู่ระหว่า 100-125 มก./ดล. ถือว่ามีระดับน้ำตาลขณะอดอาหารผิดปกติ(Impaired Fasting Plasma Glucose หรือ IFG) ควรตรวจติดตามทุกปี

หมายเหตุ ในการเจาะเลือดตรวจระดับพลาสม่ากลูโคสให้งดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือรับประทานลูกอม (แต่สามารถดื่มน้ำเปล่าได้)

แชร์ :

บทความสุขภาพที่เกี่ยวข้อง