Skip to content

โรคไข้เลือดออก: สาเหตุและอาการทั้ง 3 ระยะ

หน้าแรก  >  บทความเกี่ยวกับสุขภาพ

โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดต่อโดยมีสาเหตุมาจากยุงลาย Aedes Aegypti ตัวเมียกัด เมื่อยุงกัดคนที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกโดยเฉพาะช่วงที่มีไข้สูง เชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue Virus) จะเพิ่มจำนวนในตัวยุงประมาณ 8-10 วัน เชื้อไวรัสเดงกี่จะไปที่ผนังกระเพาะและต่อมน้ำลายของยุง พร้อมที่จะติดต่อไปยังคนอื่น แล้วนำเชื้อไวรัสมาแพร่ให้กับคนอื่น ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นเด็ก โรคนี้มักจะระบาดในฤดูฝน แต่ปัจจุบันพบได้ตลอดทั้งปี

ชนิดของเชื้อเดงกี่ สาเหตุสำคัญของไข้เลือดออก

เชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue Virus) เป็น Single-Stranded RNA ไวรัสทีด้วยกัน 4 ชนิด (Serotype) DEN1, DEN2, DEN3, DEN4 ซึ่งมี Antigen ร่วมกันบางส่วนทำให้เมื่อเกิดการติดเชื้อชนิดหนึ่งจะเกิดภูมิคุ้มกันต่อเชื้ออีกชนิดหนึ่ง แต่ภูมิที่เกิดจะอยู่ได้ 6-12 เดือน ส่วนภูมิที่เกิดกับเชื้อที่ป่วยจะมีตลอดชีวิต เช่น หากเป็นไข้เลือดออกจากเชื้อ DEN1 ผู้ ป่วยจะมีภูมิต่อเชื้อนี้ตลอดชีวิต แต่จะมีภูมิต่อเชื้อเดงกี่ชนิดอื่นเพียง 6-12 เดือนเท่านั้น จากการศึกษาพบว่า การติดเชื้อซ้ำหรอืการติดเชื้อครั้งที่สองจะเป็นสาเหตุของโรคเดงกี่รุนแรง ได้ถึงร้อยละ 80-90 ในปี 2543 พบว่า การระบาดของเชื้อเดงกี่เกิดจากสายพันธุ์ที่สอง DEN2 แต่หลังจากนั้นพบลดลง แต่จะพบสายพันธุ์ DEN3 มากขึ้น แต่หลังจากปี 2543 เชื้อสายพันธุ์ที่สอง DEN2 เริ่มกลับมาพบมากขึ้นและมีอัตราการตายสูง เนื่องจากเป็นเชื้อที่หากเป็นแล้วจะเกิดอาการรุนแรง

อาการจากเชื้อไวรัสแดงกี่มี 3 ระยะ

ระยะไข้สูง

  • ไข้สูงลอย 2-7 วัน
  • เบื่ออาหาร
  • อาเจียน
  • ปวดหัว
  • ปวดท้อง บริเวณลิ้นปี่
  • ปวดกล้ามเนื้อ วันที่ 2-3 เด็กมักซึมลง
  • หน้าแดง ตัวแดง
  • อาจมีผื่น หรือจุดเลือด ออกตามผิวหนัง
  • 60-90% ตรวจพบตับโต
  • Tourniguet test ให้ผลบวก

ปวดหัว

ระยะวิกฤติ (ระยะช็อคและเลือดออก)

  • ไข้ลด (ประมาณวันที่ 3-6 ของโรค)
  • อาการทรุดลงเข้าสู่ภาวะช็อค
  • กระสับกระส่าย
  • ชีพจรเต้นเร็ว
  • อาเจียนมาก
  • ปวดท้อง
  • บางรายซึมมากขึ้น
  • ปัสสาวะน้อย
  • อาจมีเลือดออกในกระเพาะ
  • ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน และได้รับการรักษาทันและถูกต้อง ระยะนี้จะกินเวลา 24-48 ชม.

ระยะฟื้น

  • อาการทั่วไปดีขึ้น
  • ความดันดี
  • ชีพจรปกติ
  • ปัสสาวะออกมากขึ้น
  • ตับที่โตจะลดขนาดลง ภายใน 1-2 สัปดาห์
  • เริ่มรับประทานอาหารได้
  • มือและเท้ามีอาการคัน

เมื่อไหร่ถึงน่าสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก

ไข้สูงเฉียบพลัน ประมาณ 2-7 วัน เบื่ออาหาร หน้าแดง ปวดศีรษะ ร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีอาการปวดท้องร่วมด้วย บางรายอาจมีจุดเลือดสีแดงขึ้นตามตัว แขนขา อาจมีเลือดกำเดาออกหรือเลือดออกตามไรฟัน และการถ้ายอุจจาระดำ เนื่อง จากเลือดออกและอาจทำให้เกิดอาการช็อคได้ ในรายที่ช็อคจะสังเกตได้จากการที่ไข้ลด แต่ผู้ป่วยซึมลง ตัวเย็น หมดสติ และเสียชีวิตได้

การป้องกันโรคไข้เลือดออก

  • ป้องกันไม่ให้ยุงกัด
  • ปราบและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ซึ่งชอบวางไข่ในน้ำสะอาดที่อยู่นิ่งๆ ตามภาชนะต่างๆที่มีน้ำขัง
  • ผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออก ไม่ควรให้ถูกยุงกัดภายใน 5 วันแรกของโรค เพราะผู้ป่วยยังมีไวรัสอยู่ในเลือดทำให้แพร่เชื้อไปให้คนอื่นได้
  • รายงานคนไข้ไปที่โรงพยาบาลหรืออนามัยจังหวัด เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการกำจัดยุงบริเวณนั้น ก่อนที่จะมีการระบาดเพิ่มขึ้น

ที่มา :  ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)

วัคซีนไข้เลือดออก

แชร์ :

บทความสุขภาพที่เกี่ยวข้อง